02-611-1391 (สำนักงาน) ,089-6828905 (คุณแอล) ,061-6649244 ,063-8642828 , ID LINE 1: @smartprintfabric , ID LINE 2: @smartprintfabric2

การดูแลรักษาผ้าแต่ละชนิด

ผ้าในโลกนี้มีหลากหลายประเภท ซึ่งการดูแลผ้าในแต่ละประเภทก็ดูแลแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของเนื้อผ้า

   1.ผ้าฝ้าย ( cotton ) เป็นผ้าที่ได้จากเส้นใยธรรมชาติจากพืช สามารถซักด้วย สบู่ หรือผงซักฟอกได้ มนต่อแสงแดดและความร้อนได้ดี ในการดูแลรักษา ควรรีดในขณะที่ยังชื้นอยู่ หรือควรพรมน้ำก่อนรีด ควรรีดให้แห้งสนิท ถ้ารีดไม่แห้งสนิทเมื่อเก็บไว้อาจจะทำให้เกิดราได้

 

 

2. ผ้าลินิน ( linen ) เป็นผ้าที่ได้จากเส้นใยธรรมชาติจากพืชเช่นเดียวกับฝ้าย แต่มีข้อแตกต่างกันอยู่นิดหน่อยคือ ลินิน จะแข็งและดูดซับน้ำได้ดีกว่า ฝ้าย แต่จะไม่ยืดหยุ่นเท่ากับฝ้าย การดูแลรักษา คล้ายกัน ผ้าลินินจะยับง่ายกว่าจึงควรใช้การม้วนเก็บมากกว่าการพับ

 

 

3. ผ้าไหม ( silk ) เป็นผ้าที่ได้จากเส้นใยธรรมชาติจากสัตว์ ผ้าไหมไม่ทนแสงแดด ซึ่งจะทำให้ผ้าไหมขาดเร็ว ก่อนนำผ้าไหมไปตัดชุดควรนำไปอบไอน้ำก่อนเพื่อไม่ให้เนื้อผ้าหดและสีไม่ตกง่ายในภายหลัง วิธีการดูแล ไม่ควรใช้น้ำยาซักแห้ง หรือผงซักฟอก เพราะจะทำให้สีตก และเก่าเร็ว ควรใช้สบุ๋อ่อน แชมพูเด็ก หรือผลิตภัณฑ์สำหรับผ้าไหมโดยเฉพาะ ผสมน้ำอุ่นตีเป็นฟอง น้ำเสื้อผ้าไหมจุ่มลง และใช้มือขยำและซักตรงที่มีรอยสกปรก เช่น ที่คอ ปลายแขน ปลายขา ปลายกระโปรง นำขึ้นบีบให้น้ำสบุ่ไหลออกแล้วนำไปซักน้ำอุ่น อีกอย่างย้อย 2 ครั้ง หรือจนกว่าจะหมดฟอง แล้วใช้ผ้าขนหนูซับน้ำออกโดยการปูชุดผ้าไหมลงบนผ้าขนหนูแล้วค่อยๆม้วนผ้าตามขวาง โดยทิ้งไว้ 5-10 นาทีโดยไม่ต้องบิด แล้วนำไปแขวนผึ่งลม พอหมาดๆแล้วนำไปรีด

 

 

4. ผ้าขนสัตว์ ( wool ) เป็นผ้าที่ทำมาจากขนของสัตว์เช่น แกะ เฟอร์ กระต่าย เป็นต้น ถ้ามีรอบเปื้อนให้รีบใช้แปรงแปรงออกโดยเร็ว หากเปื้อนน้ำให้รีบสบัดออก หรือใช้ผ้าแห้งเช็ดออก ผ้าขนสัตว์ต้องแปรงทุกครั้งหลังจากสวมใส่ ให้ใช้แปรงที่มีขนนุ่มและแน่น จะทำให้รอยเปื้อนหรือคราบสกปรกหลุดออกได้ดีแล้ว ยังทำให้เส้นขนไม่จับตัวเป็นก้อน ข้อสำคัญคือห้ามแปรงตอนผ้าเปียกให้แปรงตอนแห้งเท่านั้น

 

 

5. ผ้าใยสังเคราะห์ ( synthetic fiber ) ผ้าใยสังเคราห์มีหลากหลายชนิดเช่น โพลีเอสเตอร์ เรยอย อาชิเตด ไนลอน เป็นต้น ผ้าประเภทนี้ถูกสร้างขึ้นโดยมนูษย์ การดูแลรักษา ง่าย ทนความร้อน สามารถใช้ผงซักฟอกซักตามปกติได้ และควรรีดตามประเภทของเส้นใยด้วย เนื่องจากวัสดุแต่ละประเภท ทนความร้อนไม่เท่ากัน